เสือโคร่งเป็นสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ และเป็นผู้ล่าอันดับสูงสุดในห่วงโซ่อาหาร มีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมประชากรสัตว์กินพืชในระบบนิเวศ เช่น กวาง กระทิง เก้ง และวัวแดง เป็นต้น เพื่อรักษาสมดุลและป้องกันไม่ให้มีสัตว์กินพืชเพิ่มจำนวนมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อพืชพรรณในผืนป่า นอกจากนี้ เสือโคร่งยังช่วยล่าเหยื่อที่อ่อนแอ ซึ่งส่งเสริมให้ประชากรสัตว์ป่ามีโอกาสถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่แข็งแรงอีกด้วย โดยเสือโคร่งที่พบในประเทศไทย เป็นสายพันธุ์อินโดจีน (Panthera tigris corbetti) พบการกระจายพันธุ์ในแถบมีถิ่นอาศัยอยู่ในผืนป่าในประเทศไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และทางตอนใต้ของจีน
 
ประชากรเสือโคร่งที่เคยมีจำนวนมากในอดีตกำลังลดลงอย่างน่าวิตกจากหลายภัยคุกคาม ทั้งการลักลอบล่าสัตว์ การค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย การทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นตัวเร่งให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ถี่และทวีความรุนแรงขึ้น เช่น ไฟป่า ความแห้งแล้งที่ยาวนานและรุนแรงมากขึ้น เกิดฝนทิ้งช่วงและตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล บางแห่งปริมาณฝนลดน้อยลง ในขณะที่บางแห่งปริมาณฝนกลับมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศป่าไม้และแหล่งอาหารของเสืโคร่ง พืชอาหารของสัตว์กินพืชอาจลดน้อยลง ทำให้สัตว์กินพืชลดจำนวนน้อยลงตามไปด้วย เสือโคร่งจึงต้องออกล่าเหยื่อในระยะทางไกลขึ้น และมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญอันตรายถูกล่าเมื่อออกหากินนอกพื้นที่ป่า
 
ดังนั้น การคงอยู่ของผืนป่าและระบบนิเวศป่าไม้ที่สมบูรณ์ส่วนหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับประชากรเสือโคร่ง การมีอยู่ของเสือโคร่งบ่งชี้ถึงระบบนิเวศป่าไม้ที่สมบูรณ์ และผืนป่าที่สมบูรณ์ก็มีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นการอนุรักษ์เสือโคร่ง ไม่ได้หมายถึงแค่การปกป้องสัตว์ป่าชนิดหนึ่งเท่านั้น หากแต่คือการร่วมกันดูแลรักษาผืนป่า และคงไว้ซึ่งความสมดุลของนิเวศ
 
ในโอกาสวันอนุรักษ์เสือโคร่งโลก วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI
ขอเชิญชวนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์เสือโคร่ง ด้วยการสนับสนุนโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง รักษาผืนป่า และต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายทุกรูปแบบ เพื่อให้สัตว์ป่าผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ยังคงสามารถโลดแล่นอยู่ในผืนได้อย่างอิสระตราบนานเท่านาน