วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก (World Wildlife Day)

3 มีนาคม ของทุกปี ร่วมสร้างความตระหนักรู้และร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเพื่อประโยชน์ระยะยาวที่ยั่งยืนของโลกวันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก ตรงกับวันที่ 3 มีนาคมของทุกปี วันนี้ถูกกำหนดขึ้นโดยองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อเป็นวันรำลึกถึงการก่อตั้ง CITES และเป็นเวทีให้ทุกภาคส่วนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของโลก และเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าโลก ตลอดจนร่วมตระหนักรู้ถึงคุณประโยชน์ของการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่มีต่อมวลมนุษยชาติ

เราทราบกันดีว่า สัตว์ป่าและพืชป่ามีบทบาทสำคัญต่อโลกในหลายๆ ด้าน ทั้งระบบนิเวศ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมของโลก แต่ปัจจุบัน สถานการณ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรง จากรายงาน Living Planet Report 2024 โดย WWF ระบุว่า ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 2020 ประชากรสัตว์ป่าทั่วโลกลดลงถึง 73% โดยเฉพาะในภูมิภาคละตินอเมริกาและแคริบเบียนที่ลดลงถึง 95% แอฟริกา 76% และเอเชียแปซิฟิก 60%  โดยมีสาเหตุหลักมาจากการสูญเสียและเสื่อมสภาพของแหล่งที่อยู่อาศัยเนื่องจากการขยายตัวของพื้นที่เกษตรกรรม การบริโภคทรัพยากรธรรมชาติที่เกินขีดจำกัด การบุกรุกของสายพันธุ์ต่างถิ่น และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ข้อมูลจาก International Union for Conservation of Nature (IUCN) ระบุว่ามีสัตว์ป่าและพืชป่ามากกว่า 8,400 สายพันธุ์ที่อยู่ในข่ายใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง และเกือบ 30,000 สายพันธุ์ที่กำลังใกล้สูญพันธุ์หรือมีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งอาจส่งผลให้มากกว่าหนึ่งล้านชนิดพันธุ์กำลังถูกคุกคามจากการสูญพันธุ์

เพื่อรับมือกับวิกฤตนี้ จึงเกิดความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กรต่าง ๆ ด้วยการปฏิรูประบบอาหาร พลังงาน และการเงิน การพัฒนาแผนงานด้านธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศที่ครอบคลุม และการลดการบริโภคที่เกินความจำเป็น เพื่อเป็นแนวทางที่จะหยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพประเทศไทย โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดงานวันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก (World Wildlife Day) เป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่าอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่าไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ในด้านอาหาร ยารักษาโรค และระบบธรรมชาติอื่น ๆ ดังนั้น การร่วมมือกันในทุกภาคส่วนจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของโลก

สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI  ตระหนักและเห็นความสำคัญของสัตว์ป่าและพืชป่าโลก จึงเป็นอีกเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นให้ผู้คนทั่วโลกร่วมมือกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ มนุษย์ และสัตว์ป่า ซึ่งเราก็ต่างได้พึ่งพาอาศัยกันเพื่อความอยู่รอด ดังนั้น การปกป้องและรักษาสัตว์ป่าและพืชป่า จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคน และหากเราร่วมมือกัน อนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า ก็จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่อุดมสมบูรณ์ต่อไปในอนาคต