กลุ่มงาน: ความหลากหลายทางชีวภาพ
วันพระบิดาแห่งฝนหลวง (Father of Royal Rainmaking Day)
14 พฤศจิกายน 2567
“น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัชกาลที่ 9 และเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา องค์ราชา สืบสาน ต่อยอด พระบิดาแห่งฝนหลวง”
69 ปีแห่งการกำเนิดฝนหลวงพระราชทาน นับจากวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 ซึ่งเป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงคิดค้น “เทคโนโลยีฝนหลวง” ซึ่งปัจจุบันได้รับการเผยแพร่และยอมรับในหมู่นักวิทยาศาสตร์ องค์กร และสถาบันที่มีกิจกรรมการดัดแปรสภาพอากาศวิทยาศาสตร์และอุตุนิยมวิทยาทั้งในระดับนานาชาติและระดับโลก และได้มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานโครงการพระราชดำริ “ฝนหลวง” (Artificial rain) ที่สามารถช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตร รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพสกนิกรผู้ยากไร้ ด้อยโอกาสทั่วทุกภูมิภาคให้ดีขึ้นจนถึงปัจจุบัน ทางคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 เฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน ในฐานะทรงเป็น “พระบิดาแห่งฝนหลวง” และกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ และจารึกไว้เป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีประราชปณิธานอันแน่วแน่ในการ สืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการในพระราชดำริฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้ผ่านพ้นจากวิกฤตภัยแล้วง มีน้ำกินน้ำใช้ และทำการเกษตรได้อย่างยั่งยืนต่อไป
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งเชิงรุกและเชิงรับต่อผลกระทบจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศที่มีความแปรปรวนค่อนข้างสูง อาทิ ภัยแล้ง น้ำท่วม และส่งเสริมและการสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างสูงสุดและยั่งยืน รวมถึงให้ความสำคัญกับการดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และสถาบันการศึกษาและสถาบันวิชาการอื่นๆ ทั้งในระบบชาติและระดับนานาชาติเพื่อมุ่งเน้นเชื่อมโยงการดำเนินการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุล ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าและเพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่านที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศไทยอย่างหาที่สุดมิได้
Share: