ด้วยในวันที่ 22 กันยายน ของทุกปี ทั่วโลกรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวเปลี่ยนมาใช้รถขนส่งสาธารณะหรือรถจักรยานเพิ่มขึ้น เพื่อลดการใช้พลังงาน ลดปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุ ตลอดจนลดปัญหามลพิษที่เกิดจากยานพาหนะ

การมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้า
ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle, EV) เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากการเผชิญกับปัญหาภาวะโลกร้อนและมลพิษทางอากาศ และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่แพงขึ้นเรื่อยๆ เพราะแหล่งขุดเจาะน้ำมันซึ่งเป็นพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเริ่มจะหมดลงไปทุกที จึงทำให้รัฐบาลจากหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้าดีจริงหรือ?             
รถยนต์ไฟฟ้ามีการประชาสัมพันธ์ว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีการปล่อยไอเสียหรือก๊าซเรือนกระจกออกมาและไม่สร้างมลพิษ แม้ในกระบวนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ปล่อยมลพิษ แต่การได้มาซึ่งกระแสไฟฟ้านั้นยังมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษอยู่ โดยขึ้นอยู่กับแหล่งเชื้อเพลิงที่นำมาผลิตกระแสไฟฟ้า และที่พูดถึงกันอย่างมากว่ารถยนต์ไฟฟ้าประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากพลังงานไฟฟ้ายังมีราคาถูกกว่า และผันผวนน้อยกว่าราคาน้ำมัน ส่วนในเรื่องของการบำรุงรักษานั้น ในรถยนต์ไฟฟ้ามีเพียงมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้นที่เป็นส่วนกำลังทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่ในประเทศไทยยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก อาจจะต้องใช้เวลาเพื่อให้บุคลากรทางสายยานยนต์เรียนรู้เรื่องการบำรุงรักษาระบบต่าง ๆ และตัวรถยังมีราคาที่ค่อนข้างแพง เนื่องจากกระบวนการผลิตจนถึงการวางจำหน่ายจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่มีราคาสูง อีกทั้งระยะการขับจะขึ้นอยู่กับขนาดความจุของแบตเตอรี่ ซึ่งอาจจะต้องมีการวางแผนการชาร์จระหว่างทาง สำหรับการขับขี่ในระยะไกล เนื่องจากปัจจุบันสถานีอัดประจุในประเทศยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และท้ายสุดการจัดการขยะจากแบตเตอรี่ เนื่องจากแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันมีอายุการใช้งานที่จำกัด การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่การกำจัดแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพไปแล้วนั้น ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการกำจัดแบตเตอรี่ที่เป็นขยะเหล่านี้ ซึ่งเป็นความท้าทายที่จะต้องมีการพัฒนาต่อไป
แล้วเรายังต้องรณรงค์ วันปลอดรถยนต์โลกกันอยู่หรือไม่ ในส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าการรณรงค์เป็นการแสดงออกเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงมลพิษที่เกิดจากการใช้รถยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาบภายในซึ่งใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงหลัก แล้วกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นยานพาหนะหลัก เรายังคงต้องรณรงค์วันปลอดรถยนต์โลกต่อไป