20-24 มกราคม 2568 โครงการ Urban Resilience Building and Nature (URBAN) โดย สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ได้ร่วมสำรวจและแลกเปลี่ยนข้อมูลการใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองทุ่งทอง (อ่างเก็บน้ำหนองทุ่งทอง) และพื้นที่ชุ่มน้ำอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองทุ่งทอง เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ มีลักษณะทางภูมิประเทศเป็นหนองน้ำ แหล่งน้ำไหล และพื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ โดยเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตอาหาร สนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ การท่องเที่ยว และการป้องกันภัยพิบัติโดยเฉพาะในช่วงน้ำหลาก ในขณะที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งและทะเล ที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรือ แรมซาร์ไซต์ มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ป่าเขาหินปูน หาดทราย เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลาย อาทิ การพายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการัง และชมวิว อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของพันธุ์พืชและสัตว์เฉพาะถิ่น เช่น กล้วยไม้รองเท้านารีช่องอ่างทอง ค่างแว่นถิ่นใต้ และนกแก๊ก

นอกจากนี้ ในวันที่ 23 มกราคม 2568 TEI นำโดย นางสาวพวงผกา ขาวกระโทก ผู้จัดการโครงการ และทีมนักวิจัย พร้อมด้วย นายกิตติณัฐ พิมพขันธ์ ผู้ประสานงานโครงการจังหวัดสุราษฎร์ธานี IUCN ได้จัดประชุมเพื่อทบทวนข้อมูลและหารือแนวทางการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ โดยได้รับเกียรติจาก นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเกาะสมุย เป็นประธานเปิดการประชุม

ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม เอกชน และชุมชนในพื้นที่ เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง กรมเจ้าท่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หน่วยจัดการต้นน้ำ เทศบาลนครเกาะสมุย มูลนิธินิเวศวิถี สมาคมเรือนำเที่ยวเกาะแตน และผู้แทนภาคประชาชนเกาะสมุย เกาะแตน ร่วมประชุมและแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ประโยชน์ และการบริหารจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำในโซนเกาะ ได้แก่ หมู่เกาะอ่างทอง เกาะแตน เกาะสมุย โดยครอบคลุมพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญทั้งในระดับนานาชาติ (แรมซาร์ไซต์) ระดับชาติ และระดับท้องถิ่น

ข้อเสนอสำคัญ จากที่ประชุม ได้แก่: #การเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของพื้นที่ชุ่มน้ำแก่ประชาชน #การกำหนดขอบเขตพื้นที่อนุรักษ์และหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก #การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจืดในพื้นที่เกาะให้เพียงพอสำหรับชุมชนและนักท่องเที่ยว และ #การผลักดันแผนบริหารจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำให้เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนจะร่วมกันพัฒนาแผนการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ เพื่อสร้างแนวทางอนุรักษ์ที่ยั่งยืน และรักษาพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นรากฐานสำคัญของชีวิต เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของคนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี