เชื่อหรือไม่ว่า!? คนส่วนใหญ่ที่ทำงานกว่า 37 ล้านคน ใช้ชีวิตอยู่ที่ทำงาน หรือออฟฟิศมากกว่าอยู่ที่บ้าน ซึ่งหมายความว่า การใช้พลังงานที่ทำงานนั่นย่อมสิ้นเปลืองมากกว่าอยู่ที่บ้านแน่นอน และส่งกระทบกับสิ่งแวดล้อมโดยที่เราไม่รู้ตัว โดยปัญหาสิ่งแวดล้อมในสำนักงาน ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้ไฟฟ้าสำหรับระบบปรับอากาศ แสงสว่าง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการใช้วัสดุอุปกรณ์สำนักงานอย่างฟุ่มเฟือย
การปรับเปลี่ยนสำนักงานให้เป็นGreen Office หรือที่รู้จักกันว่า “Green Office” จึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้ทุกสำนักงานได้ร่วมตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์เครื่องใช้ในที่ทำงานอย่างรู้คุณค่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำนักงานและกิจกรรมต่างๆ ภายในสำนักงาน ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดโดยการใช้ทรัพยากร และพลังงานอย่างรู้คุณค่า มีแนวทางในการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้สำนักงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญจะต้องปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาในปริมาณต่ำ
การเปลี่ยนเป็นGreen Officeนั้น มีขั้นตอนในการปฏิบัติมากมาย ตั้งแต่การสร้างตัวอาคาร ต้องคำนึงถึงตั้งแต่ออกแบบและก่อสร้างที่เหมาะสม การจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์สำนักงาน คำนึงถึงคุณสมบัติที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การใช้วัสดุอุปกรณ์สำนักงานอย่างรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนการปฏิบัติของบุคลากรเพื่อลดการใช้พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม
ความสำเร็จของGreen Office หนึ่งสิ่งที่ควรมีบรรจุในนโยบายของสำนักงานคือ การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว จัดซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม งบประมาณในการจัดซื้อ (ควบคุมงบประมาณ) มีการตรวจสอบในการเบิกจ่าย (ความถี่และปริมาณ) มีทะเบียนควบคุมการเบิกจ่าย ไม่ stock สินค้าเกินความจำเป็น (ใกล้หมดค่อยซื้อ) กำหนดเป้าหมายในการซื้อค้าสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จัดทำข้อตกลงโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมก่อนการจัดจ้าง