Resilient City เป็นเมืองที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวและรับมือกับการเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ  ได้ ทั่วโลกได้ให้ความสำคัญและเริ่มมีการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อปรับตัวและรับมือกับภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ที่มีความเสี่ยงสูงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับประเทศไทยจะยังคงเป็นเรื่องใหม่ ที่ต้องเริ่มมีการวางแผน และเตรียมความพร้อม 

กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เล็งเห็นความสำคัญ จึงได้จัดกิจกรรมการเสริมศักยภาพและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองยั่งยืน มุ่งสู่ Resilient City ขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย. 65 เพื่อเสริมสร้างความรู้และศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาเมืองให้สามารถปรับตัวและมีความพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผอ. สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวต้อนรับ และ ดร.พรพิมล วราทร ผอ. กองส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวเปิดกิจกรรม และมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญกว่า 20 ท่าน ร่วมแลกเปลี่ยน โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 350 ท่าน 

บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคีที่เกี่ยวข้องล้วนมีความสำคัญในการลดความเสี่ยงและผลกระทบที่เกิด โดยให้ความสำคัญกับการวางผังเมืองและการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและช่วยลดผลกระทบจากอุทกภัยที่จะตามมาจากภาวะโลกร้อน